วันนี้เราจะมาพูดคุยกันเกี่ยวกับวิธีการที่กำลังศึกษาเพื่อป้องกันเอชไอวีอีกวิธีการหนึ่งจากบทความ “ความคืบหน้าของการวิจัยทางชีวเวชศาสตร์เพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี” ผู้เขียนคือคุณอุดม ลิขิตวรรณวุฒิ จากเวปไซด์ www.global-campaign.org
วิธีการที่เราจะพูดในวันนี้คือการใช้ไมโครบิไซด์ ซึ่งมีเนื้อหาดังนี้
ไมโครบิไซด์ คืออะไร
ไมโครบิไซด์ คือ สารที่มีคุณสมบัติป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ ใช้เฉพาะที่ คือช่องคลอดหรือทวารหนัก ไมโครบิไซด์มีหลายรูปแบบ เช่น เจล ครีม ยาเหน็บ แผ่นฟิล์ม สารหล่อลื่น หรือในรูปฟองน้ำหรือห่วงที่ปล่อยสารที่ออกฤทธิ์ทีละน้อย คำว่า “ไมโครบิไซด์” หมายถึงผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่มีคุณสมบัติสำคัญ เหมือนกันอย่างหนึ่งคือ สามารถป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีทางเพศสัมพันธ์และเชื้อโรคที่มากับการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ได้โดยใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวกับผิวภายนอกเฉพาะที่
ไมโครบิไซด์พร้อมมีให้ใช้ในขณะนี้หรือไม่
“ยังไม่มี” ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์กำลังทดสอบสารหลายชนิดเพื่อศึกษาดูความเป็นไปได้ในการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีและ/หรือการติดเชื้อทางเพศ
สัมพันธ์อื่น ๆ แต่ขณะนี้ยังไม่มีไมโครบิไซด์ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิผลพอที่จะใช้กับคนทั่วไปได้ อย่างไรก็ดี นักวิทยาศาสตร์กำลังติดตามดูผลิตภัณฑ์นำร่อง
กว่า 30 ชนิด ซึ่งในจำนวนนี้มี 10 ชนิดที่ใช้กับสัตว์แล้วพบว่าปลอดภัยและมีประสิทธิผลและกำลังอยู่ในขั้นทดลองใช้กับมนุษย์ หากพบว่าผลิตภัณฑ์นำร่องเหล่า
นี้ได้ผลและมีการลงทุนมากพอ ก็อาจจะมี ไมโครบิไซด์ดี ๆ ให้ใช้ก่อนสิ้นทศวรรษนี้
ไมโครบิไซด์ทำงานอย่างไร
ไมโครบิไซด์สามารถป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีและการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ได้โดย:
1) ฆ่าหรือหยุดยั้งเชื้อโรค
2) ยับยั้งการติดเชื้อโดยสร้างสิ่งกีดขวางระหว่างเชื้อโรคกับเซลล์ของช่องคลอดหรือทวารหนัก หรือ
3) ป้องกันมิให้เกิดการติดเชื้อหลังจากที่เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายแล้ว
ที่ดีที่สุด ไมโครบิไซด์ควรมีกลไกเหล่านี้ทั้งหมดร่วมกันเพื่อออกฤทธิ์อย่างมีประสิทธิผลอย่างเต็มที่เพิ่มขึ้น
ไมโครบิไซด์สามารถป้องกันการติดเชื้อจากเพศสัมพันธ์ทุกชนิดหรือไม่
เนื่องจากการติดเชื้อจากเพศสัมพันธ์เกิดจากเชื้อโรคหลายชนิด (เช่นไวรัส หรือแบคทีเรีย) ไมโครบิไซด์เท่าที่กำลังทดสอบฤทธิ์ยาอยู่นั้น มีอย่างน้อยชนิด หนึ่งที่สามารถป้องกันเชื้อเอชไอวีและการติดเชื้อจากเพศสัมพันธ์ ท้ายที่สุดผลิตภัณฑ์ที่มีไมโครบิไซด์ต่างชนิดรวมกันและมีกลไกลการออกฤทธิ์หลายอย่าง
ย่อมป้องกันการติดเชื้อจากเพศสัมพันธ์ได้มากขึ้น รวมทั้งการติดเชื้อเอชไอวีด้วย
ไมโครบิไซด์ปลอดภัยหรือไม่
ผลิตภัณฑ์ใหม่ทุกชนิดล้วนต้องผ่านการทดสอบความปลอดภัยอย่างเข้มงวดก่อนจะเข้าสู่ผู้บริโภค นักเคลื่อนไหวด้านสุขภาพและนักวิจัยทำงานร่วมกัน อย่างใกล้ชิดเพื่อให้การทดสอบไมไครบิไซด์ในด้านคลินิกให้เป็นไปอย่างถี่ถ้วนและถูกหลักจริยธรรม
มีใครบ้างที่กำลังทำวิจัยและพัฒนาไมโครบิไซด์
งานวิจัยไมโครบิไซด์ในปัจจุบันได้รับเงินสนับสนุนจากมูลนิธิเพื่อการกุศลและทุนสนับสนุนจากภาครัฐ กองทุนสาธารณะเหล่านี้ยังสนับสนุนงานวิจัย
วิทยาศาสตร์พื้นฐาน สังคมศาสตร์และพฤติกรรมศาสตร์ ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานของการทดลองทางคลินิกที่เอื้อต่องานวิจัยและพัฒนาไมโครบิไซด์
ทำไมเราจึงต้องใช้ไมโครบิไซด์ในเมื่อต่อไปเราก็จะมียาวัคซีนต้านเชื้อเอชไอวีอยู่แล้ว
ในการ “แก้ไข” ปัญหาการแพร่ระบาดเอดส์นั้น คงใช้กลยุทธ์หรือเทคโนโลยีอย่างเดียวไม่ได้ เราคงต้องใช้กลยุทธ์การป้องกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการปรับ
เปลี่ยนพฤติกรรม การเข้ารับการปรึกษาและตรวจเลือดโดยสมัครใจ การวินิจฉัยการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์และการบำบัดรักษา การเข้าถึงถุงยางอนามัยสำหรับ
ชายและหญิงอย่างกว้างขวาง การเข้าถึงเข็มฉีดยาที่ปลอดเชื้อ และการใช้ยาต้านไวรัส ตลอดจนขยายขอบข่ายเครื่องมือและเทคโนโลยีที่มีอยู่ให้กว้างขวางออก
ไปอีก ไมโครบิไซด์น่าจะมีให้ใช้และเข้าถึงได้เร็วกว่าวัคซีนต้านเชื้อเอชไอวี เพราะแม้หลังจากจะค้นพบวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิผลแล้วก็ตาม วัคซีนก็ดี
ไมโครบิไซด์ก็ดีต่างมีบทบาทที่ต่างกันและเสริมกันและกันในการเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีของโลกที่มีหลายรูปแบบอย่างผสม
ผสานในที่สุด